LCD TV คืออะไร?
LCD TV (Liquid Crystal Display) นับเป็นเทคโนโลยีรุ่นแรกของทีวีจอแบน ใช้หลอดไฟ CCFL เป็นตัวกำเนิดแสง ส่องผ่าน Liquid Crystal 3 สี (แดง/น้ำเงิน/เขียว) ที่บิดตัวทำองศาต่างๆ แสดงผลออกมาเป็นสีสันให้เราเห็นบนจอภาพ ซึ่งหลอด CCFL มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ทำให้ทีวีจอ LCD มีความหนามากกว่าทีวีแบบอื่นๆ
LED TV (Light Emitting Diode) หลายคนคงเคยได้ยินชื่อทีวี LED บ่อยครั้ง เพราะถือเป็นทีวีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เทคโนโลยีทีวี LED ต่อยอดมาจากทีวี LCD โดยเปลี่ยนจากหลอดไฟ CCFL มาใช้หลอดไฟ LED 3 สี (แดง/น้ำเงิน/เขียว) เป็นตัวกำเนิดแสง ซึ่งให้แสงสว่างได้มากกว่า แต่กินไฟน้อยกว่า ทั้งยังมีขนาดเล็ก ทำให้ทีวี LED บางกว่าทีวี LCD มาก
ทีวี LED มีหลายรูปแบบให้เลือกใช้ แบ่งตามประสิทธิภาพ ได้ดังนี้
- ทีวี EDGE LED : ทีวี LED ที่จัดวางหลอดไฟ LED ไว้บริเวณขอบจอทีวี ข้อดี คือ ช่วยให้จอทีวีและขนาดของทีวีบางขึ้น กินไฟน้อย แต่สีสันจะไม่สู้ ทีวี Full LED
- ทีวี Full LED : ทีวี LED ที่จัดวางหลอดไฟ LED เต็มบริเวณแผงหน้าจอ ทำให้จอมีความหนามากกว่าทีวี EDGE LED แต่สีสันของภาพนั้นสดใส คมชัด ให้ Contrast สูง มีความสมจริง และให้อรรถรสในการชมได้มากกว่า
- ทีวี RGB LED : ทีวี LED ที่จัดกลุ่มของหลอดไฟ LED 3 สี มาวางเรียงเต็มบริเวณแผงหน้าจอ ถือเป็นประเภททีวี LED รุ่นท็อป เพราะให้ภาพที่คมชัดมีมิติ และสีสันถูกต้องสมจริงมากที่สุด
Plasma TV คืออะไร?
Plasma TV เทคโนโลยีของจอทีวีที่ใช้แรงดันไฟฟ้ากระตุ้นเม็ดพิกเซลให้ส่องแสง และแสดงออกเป็นภาพบนหน้าจอ ซึ่งให้สีสันที่มีความสมจริง เป็นธรรมชาติ ภาพดูมีมิติ แสดงภาพเคลื่อนไหวได้ดี ดูมีมิติ ให้ภาพกว้างกว่าทีวีจอ LCD แต่หากทีวีพลาสม่า ตั้งอยู่ในห้องที่มีแสงสว่างจ้า กระจกทีวีจะสะท้อนแสงจนคุณภาพของภาพที่แสดงบนหน้าจอลดลง ทั้งยังเป็นทีวีที่กินไฟ ปัจจุบันจึงไม่เป็นที่นิยมเท่าไหร่นัก